“ในเวลานั้น มีธิดาของอสูรยักษ์หลายตน คนแรกชื่อ ลัมพา คนที่สองชื่อ วิลัมภ คนที่สามชื่อ ฟันคดเคี้ยว คนที่สี่ชื่อ ฟันดอกไม้ คนที่ห้าชื่อ ฟันดำ คนที่หกชื่อ ผมดก คนที่เจ็ดชื่อ ไม่รู้จักอิ่ม คนที่แปดชื่อ คนถือสร้อยคอ คนที่เก้าชื่อ กุนตี และคนที่สิบชื่อ คนขโมยวิญญาณสำคัญ ของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด” ธิดายักษ์ทั้งสิบองค์ พร้อมด้วยมารดาของบุตรอสูร (หริติ) บุตรของนาง และ บริวารของนาง ทั้งหมดมุ่งหน้า ไปยังสถานที่ที่พระพุทธเจ้า ประทับ แล้วพูดกับพระพุทธเจ้า พร้อมกันว่า "ข้าแต่ พระผู้เป็นที่เคารพยิ่ง เราทั้งหลายปรารถนาจะคุ้มครองและ คุ้มครองผู้ที่อ่าน สวดมนต์ ยอมรับ และยึดถือสัทธรรมปุณฑรีกสูตร และช่วยพวกเขาให้พ้น จากการเสื่อมถอยหรืออันตราย" ถ้าใครมาสอดส่อง ข้อบกพร่องของพวกธรรมาจารย์ เหล่านี้และพยายาม ใช้ประโยชน์จากข้อบกพร่องเหล่านั้น เราก็จะทำให้ เขาทำไม่ได้เลย” จากนั้น พวกเขาก็กล่าว คาถาเหล่านี้ต่อหน้า พระพุทธเจ้า [...] [และ] พวกเขาพูด [...] ว่า: 'หากมีคนใดไม่ฟังคาถา ของเรา สร้างความรำคาญ และรบกวนพระธรรมเทศนา หัวของพวกเขาจะแตก เป็นเจ็ดส่วน [...] เราจะใช้ร่างกายของเราเอง ปกป้องและคุ้มครองผู้ที่ยอมรับ ยึดถือ อ่าน สวดมนต์ และปฏิบัติพระสูตรนี้ เราจะเห็นว่าพวกเขาได้รับ ความสงบสุขและความเงียบสงบ ทำให้พวกเขาหลุดพ้นจากความเสื่อม และอันตราย และทำให้ผลของ สมุนไพรพิษทั้งหมดเป็นโมฆะ' พระพุทธเจ้าตรัสแก่ ธิดายักษ์ว่า ‘ดีเลิศ ดีเลิศ! หากเจ้าสามารถปกป้องคุ้มครอง ผู้ที่ยอมรับและยึดมั่น เพียงชื่อของสัทธรรมปุณฑรีกสูตรได้ คุณความดีของเจ้า ก็จะมิอาจประมาณค่าได้ มันจะยิ่งกว่านี้อีก หากท่านคุ้มครองรักษา ผู้ที่ยอมรับและยึดมั่นในพระสูตรทั้งหมด ผู้ที่ถวายทานพระสูตร ดอกไม้ ธูป เทียน สร้อยคอ [...] ผู้ที่จุดตะเกียงนานาชนิด [...] และผู้ที่ถวายทาน เป็นจำนวนนับร้อยนับพันชนิด เช่นนี้ กุนตี เจ้ากับบริวารของเจ้า ควรปกป้องและคุ้มครองบรรดา อาจารย์แห่งธรรมะเช่นพวกนี้เถิด!'” ~ ข้อความบางส่วนจาก บทที่ 26 "สัทธรรมปุณฑรีกสูตร"
ในคราวที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรม อยู่บนโลก มีเหล่าพระพุทธเจ้า กษัตริย์แห่งสวรรค์มากมายเสด็จลง มาจากที่ประทับของเหล่าพระองค์เอง เพื่อฟังพระพุทธเจ้าทรงเทศนา ถวายสักการะแด่พระพุทธเจ้า คารวะและหมอบกราบพระพุทธเจ้า คุณรู้ทั้งหมดนี้จากความกว้างใหญ่ ของคำสอนของพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าได้ทิ้ง พระสูตรไว้มากมาย เราขอบคุณพระองค์ตลอดไปสำหรับสิ่งนั้น มิฉะนั้น เราคงไม่มีโอกาส ได้รู้จักพระพุทธเจ้าแห่ง การแพทย์ พระโพธิสัตว์กวนอิม พระโพธิสัตว์ผู้ทรงพลังยิ่งใหญ่ (พระมหาสถามปราปต์โพธิสัตว์) พระไวโรจนพุทธะ พระกษิติครรภโพธิสัตว์ พระอมิตาภพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าอีกมากมาย ฯลฯ คุณบอกชื่อพระพุทธเจ้า ตามรายชื่อยาว ๆ ได้ตลอดไป เพราะพระศากยมุนีพุทธเจ้าทรง บอกชื่อเหล่านั้นแก่พวกเขา อย่างไรก็ตามพระพุทธเจ้า ยังทรงทำนายว่าพระบางรูป จะใช้คำสอนของพระพุทธเจ้า ไปต่อต้านพระองค์ นั่นคือตัวอย่างที่ฉันบอกคุณแล้วการปฏิเสธพระอมิตาภพุทธเจ้า ซึ่งเป็นหนทางที่ชาวพุทธ นิยมปฏิบัติตามมากที่สุด เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด เพื่อช่วยวิญญาณของตนเอง และการปฏิเสธว่านรกมีอยู่จริง เป็นสิ่งที่ขัดแย้ง กับคำสอนของพระพุทธเจ้า เป็นพันเท่า ในศาสนาใดก็ตาม พวกเขาสอนคุณ สองเรื่องนี้: สวรรค์และนรก ดังนั้นคุณบอกได้ว่าใครเป็นใคร ใครเป็นพระสงฆ์แท้ ใครเป็นพระสงฆ์ปลอม โปรดทราบ ช่วยตัวเอง ท่อง "พระอมิตาภพุทธเจ้า" อย่าไปฟังใครก็ตามที่ พูดว่าสวรรค์ตะวันตกของ พระอมิตาภะไม่มีอยู่ อย่าไปฟังสิ่งนั้น และเชื่อว่านรกมีอยู่จริง ฉันสาบานต่อคุณ ด้วยสวรรค์และโลก ว่านรกมีอยู่ ดินแดนของพระอมิตาภพุทธเจ้ามีอยู่ ดินแดนมากมาย ของพระพุทธเจ้าองค์อื่น ๆ มีอยู่ แต่พระอมิตาภพุทธเจ้าทรงมี ความผูกพันกับมนุษย์มากกว่า และแสงของพระองค์ก็ไม่มี ขอบเขต ตลอดไป ทุกที่ ดังนั้นจึงง่ายกว่าที่จะเชื่อมโยง กับพระองค์ แค่นั้นPhoto Caption: ร่วมสร้างโลกให้สวยงาม!หาที่ลี้ภัยใน ประเพณีศาสนาที่ดีได้ที่ไหน ตอนที่ 9 จาก 11 ตอน
2024-10-07
รายละเอียด
ดาวน์โหลด Docx
อ่านเพิ่มเติม
มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับ หญิงชราคนหนึ่ง เธอสวดพระนาม พระพุทธเจ้าทุกวัน ขณะที่เธอกำลัง คัดแยกถั่ว เธอแยกถั่วเสีย ออกจากถั่วดี เพื่อจะได้นำไปใช้หรือขายได้ และเมื่อเธอกำลังคัดแยก ถั่ว นางท่อง พระนามของพระพุทธเจ้าองค์นั้น แล้ววันหนึ่ง มีพระภิกษุรูปหนึ่งเดินผ่านมา และเห็นว่าบ้านของเธอ เต็มไปด้วยแสงสว่าง เขาไปเยี่ยมเธอและบอกกับเธอ ว่า "โอ้ คุณท่องชื่อผิด" ต้องท่องอย่างนี้ อย่างนี้” งั้นก็คงมีมนต์ด้วย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเธอจึง ท่องบทสวดตามที่พระภิกษุสอน และแล้ว ในวันหนึ่ง พระภิกษุหันกลับไปมอง และเห็นว่าบ้านของเธอไม่มีแสง และเขาเห็นว่าเธอเศร้าโศกมากและ ยากจนมาก ยากจนลงกว่าเดิมด้วยซ้ำเขาจึงถามเธอว่าทำไม เธอจึงบอกว่า “เมื่อฉันท่อง บทที่ถูกต้อง ตามที่คุณสอนฉันแล้ว ถั่วของฉันก็ไม่แยกตัวเอง โดยอัตโนมัติอีกต่อไป เมื่อก่อนตอนที่ฉันท่อง แบบผิด ถั่วจะกระโดด ถั่วไม่ดีกระโดดไปทางซ้าย และถั่วดีกระโดด ไปทางขวาให้ฉัน ฉันก็เลยไม่ต้องทำอะไรมากมาย แถมยังขายได้มากขึ้น และ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วย และตอนนี้ฉันไม่มีเวลา ทำอะไรมากนัก เพราะต้องคัดแยกถั่ว ทีละเมล็ด โดยแยกเมล็ดที่ไม่ดีไว้ทางซ้าย และเมล็ดที่ดีไว้ทางขวา โดยใช้มือทั้งหมด และมันใช้เวลานานมาก”พระภิกษุจึงกล่าวว่า “ขออภัย ขออภัย” โอเค คุณกลับไป คุณท่องบทแบบที่คุณเคยทำมาก่อน” และเธอก็ลองมันแล้ว ทันใดนั้น ถั่วก็กระโดดอีกครั้ง ถั่วก็กระโดด เหมือนเดิม ถั่วไม่ดีก็กระโดดไปทางซ้าย และถั่วดีก็กระโดด ไปทางขวา ดังนั้นหญิงคนนี้จึงไม่ต้อง ทำงานหนักทีละเมล็ด ด้วยนิ้วมืออีกต่อไป พระภิกษุจึงกล่าวว่า “ขออภัย” แล้วเขาก็รู้สึกละอายใจ แล้วก็จากไปและยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ที่คุณรู้แล้ว บังเอิญมีพระสงฆ์รูปหนึ่ง อยู่บนเกาะแห่งหนึ่งและได้ เห็นฤๅษีสามคนอยู่ที่นั่น แล้วเขาก็ถามพวกเขา ว่ามีความเชื่อใดหรือไม่ พวกเขากล่าวว่า “มี เราเชื่อในพระเจ้า” แล้วเขาก็ถามว่า “ถ้าอย่างนั้น คุณจะอธิษฐานต่อพระเจ้าอย่างไร?” พวกเขาจึงกล่าวว่า “พวกเราเพียงแต่ พูดว่า ‘พวกท่านเป็นสาม’ แปลว่า พระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพ พระบุตร และพระจิตวิญญาณบริสุทธิ์ เราจึงพูดว่า “ท่านเป็นสาม เรา เป็นสาม ขอทรงเมตตาเราด้วยเถิด!” นั่นคือสิ่งที่เรา อธิษฐานต่อพระเจ้าทุกวัน พระจึงกล่าวว่า “ไม่ได้ ไม่ได้ คุณไม่สามารถพูดแบบนั้นได้ ต้องอธิษฐานอย่างนี้ อย่างนี้...” และเขาได้สอนพวกเขา ถึงวิธีการอธิษฐาน เหมือนคนที่ไปโบสถ์ ก็ดี ฤๅษีทั้งสามจึง เริ่มท่องบทสวดนั้น และ ไม่ท่องบทสวด "เราเป็นสาม ท่านคือสาม" อีกต่อไป บาทหลวงจึงอยู่ที่นั่น สักพักหนึ่งเพื่อบอก ให้ทุกคนเข้าใจและ จำขึ้นใจ จากนั้นเขาก็จากไป เมื่อมีเรือบางลำแล่นเข้ามาใกล้ แล้วเขาก็ออกเดินทางด้วยเรือ แล้วเมื่ออยู่บนเรือ ไปสักพัก เขาก็มองเห็นร่าง ฤๅษีทั้งสามกำลัง วิ่งเข้ามาหาเรือพวกเขากำลังวิ่งอยู่บนน้ำ เมื่อพวกเขาไปที่เรือ และพบบาทหลวงอีกครั้งและ พูดว่า “โอ้ โปรดเถอะ เราลืมคำสอนบางส่วนที่คุณ บอกให้พวกเราสวดภาวนาไป กรุณาสอนเราอีกครั้ง" และบาทหลวงเห็นพวกเขาวิ่ง อยู่บนน้ำ แน่นอน อย่างเป็นธรรมชาติ ศักดิ์สิทธิ์อย่างนั้น เขาก็เลยกลัวมาก เขาโค้งคำนับต่อพวกเขาแล้วพูดว่า “ไม่ ไม่ ได้โปรด อย่ากังวลไปเลย” คุณเพียงแค่ท่องต่อไป ตามแบบที่คุณทำ อธิษฐานต่อพระเจ้าเหมือนเดิม เหมือนที่คุณพูดว่า 'คุณเป็นสาม เราเป็นสาม ขอพระองค์เมตตาเรา' ทำต่อไป ไปเช่นนั้นตลอดเวลา อย่าคิดถึงสิ่งที่ฉัน สอนคุณเลย จงลืมสิ่ง ที่ฉันสอนคุณไป” ฤๅษีทั้งสามจึงกล่าวว่า “โอเค ถ้าคุณสั่งอย่างนั้น เราก็จะทำ” พวกเขาก็วิ่งกลับไปที่เกาะของพวกเขา โดยเดินเท้าเปล่าบนน้ำ แน่นอนดังนั้นศรัทธาของผู้คนจึง สามารถเคลื่อนย้ายภูเขาและ ทำให้มหาสมุทรว่างเปล่าได้ ฉะนั้นอย่าสอนพวกเขาในทาง ที่ขัดกับความเชื่อของพวกเขา เพราะคุณกำลังช่วยราชาแห่งปีศาจ ล่อลวงพวกเขา กลับเข้าสู่ความเป็นทาส ของโลกวัตถุนี้ ซึ่งคุณจะต้องเกิดแล้วเกิดอีก และคุณจะรีไซเคิล รีไซเคิล การเกิดและการตายและความทุกข์ คืออริยสัจสี่ ที่พระพุทธเจ้าได้ทรงสอนใน พระธรรมเทศนาครั้งแรกหลังจากที่ พระองค์ทรงตรัสรู้โดยสมบูรณ์ ฉะนั้น หากคุณไม่สามารถสอน สิ่งดี ๆ อะไรแก่พวกเขาได้ ด้วยการตระหนักรู้ถึงสวรรค์และ ดินแดนแห่งพุทธะด้วยตัวคุณเอง ฉันขอเชิญคุณให้ปิดปากไปหากภิกษุและแม่ชีรูปใด ไม่รู้เรื่องอะไรเลย และไม่มีสมาธิ ในการทำสมาธิ แล้วดำเนินไปในทางที่ผิด ก็ขอให้ พยายามปรับปรุงต่อไป อ่านพระสูตร ของพระพุทธศาสนาเพิ่มเติม หรือพระสูตรที่ดีใด ๆ ที่คุณเข้าใจ ยึดถือเอาไว้ หรือสวดคาถา “พระอมิตาภพุทธเจ้า” เพื่อให้ดวงวิญญาณของคุณ ได้รับความปลอดภัยในสถานที่อัน ปลอดภัยในแดนพระอมิตาภพุทธเจ้า อย่าเทศนาอะไรเลย ถ้าคุณไม่รู้เรื่องอะไร ก็กรุณาเงียบไว้ ปล่อยให้ผู้อื่น ค้นหาเส้นทางของตนเอง แทนที่จะถูกคุณนำไปผิด ๆ ไปสู่นรกอันน่าสังเวช โดยความคิดที่ผิด และทิศทางที่ผิด นำโดยปีศาจ ฉันขอร้องคุณแค่นี้คุณดุด่าฉันได้ คุณใส่ร้ายฉันได้ มากเท่าที่คุณต้องการ เหมือนอย่างที่คุณบางคนทำไปแล้ว แต่คุณยังต้องชดใช้สำหรับ ข้อกล่าวหาอันเป็นเท็จของคุณ ในชีวิตนี้หรือ/และในนรก พวกคุณบางคนเห็น การชดใช้แล้ว เพราะคุณทำลาย ชื่อเสียงของ ผู้เลื่อมใสในศาสนาที่ดี ที่ไม่เคยทำร้ายคุณเลยแต่อย่าไปก้าวก่าย กับความศรัทธาที่ดี บริสุทธิ์ของผุ้คน อย่ายุ่งกับพระอมิตาภพุทธเจ้า และผู้ศรัทธาของพระองค์ เคารพนรก เพราะนั่น คือที่ที่คุณจะไป ถ้าคุณไม่เคารพพระพุทธเจ้า ถ้าคุณไม่เชื่อว่านรกมีอยู่จริง ปีศาจจะพิสูจน์ให้คุณเห็น อย่ารอจนถึงตอนนั้น มันจะสายเกินไปสำหรับคุณ กลับตัวตอนนี้ ท่องพระนามของพระพุทธเจ้า เป็นวีแกน ถ่อมตน จริงใจ จงพูดความจริง และอย่าทำให้ผู้อื่นหลงผิด ถึงแม้คุณจะเป็นปีศาจ แต่คุณก็ยังสามารถรอดได้ หากคุณกลับตัว พระพุทธเจ้ายังมีอสูรมากมาย ที่มาช่วยพระองค์ พระพุทธเจ้าทรงมีฤทธิ์อำนาจสูงสุด แต่บางคนในโลกนี้ ไม่ทรงพลัง เหล่าอสูรจึงพยายาม ทำให้พวกเขาสงบลง เพื่อลดความเชื่อผิด ๆ ของพวกเขา เพื่อที่พวกเขาจะได้ เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า
