รายละเอียด
ดาวน์โหลด Docx
อ่านเพิ่มเติม
ถ้าเรากินเนื้อสัตว์ เราต้องจ่ายให้เนื้อสัตว์ ดังนั้น ร่างกายเราก็ทุกข์ หรือเราตาย หรือเราป่วย เป็นมะเร็ง แล้วสิ่งต่าง ๆ ทั้งหมดนั่น นั่นเป็นเพราะกฎ “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน” “เนื้อสำหรับท้อง และท้องสำหรับเนื้อ และพระเจ้าจะฆ่าทั้ง เนื้อและพวกเขา” เพราะเรากินเนื้อสัตว์ เราต้องชดใช้ให้เนื้อสัตว์ ดังนั้น มันก็มีสงคราม เพราะบางครั้งเราฆ่า สัตว์จำนวนมาก แล้วเราไม่สามารถแค่จ่าย ให้ชีวิตแล้วชีวิตเล่า ดังนั้นสงครามที่ก่อขึ้นก็มา แล้วคนจำนวนมาก ถูกฆ่าด้วยกัน กรรมสะสม จึงถูกลบเร็วขึ้น ดังนั้น อย่าโทษสงคราม หรืออย่าโทษใคร นอกจากตัวเราเองอาหารจากสัตว์ เป็นอาหารของความรุนแรง มันเริ่มแล้ว ตั้งแต่วิธีการที่เราเลี้ยงพวกเขา วิธีที่เราปฏิบัติต่อพวกเขา วิธีที่เราบังคับให้อาหารพวกเขา ด้วยยาปฏิชีวนะและสิ่งต่าง ๆ ที่ทรมานพวกเขา และมันจบลงด้วยวิธีการ ที่เราฆ่าพวกเขาอย่างรุนแรง สังหารหมู่พวกเขาจำนวนมาก เพื่อความสุขเสี้ยววินาที ของเรา ดังนั้น เราควรหยุดการเป็น ส่วนหนึ่งของวงจรความรุนแรง คนละคนกินสัตว์บก ประมาณ 3,000 ตัว - หมายถึง วัว หมู ไก่ เป็นต้น - ในชั่วชีวิตของคนโดยเฉลี่ย สามพัน! ดังนั้น ถ้าเราเป็นคนกินเนื้อสัตว์ เรามีส่วน กับการกักขังที่โหดร้ายทารุณ บ่อยครั้งมีการทรมาน และการฆาตกรรมของ สิ่งมีชีวิต 3,000 ชีวิต ก่อนเราจากโลกนี้ไปในระดับโลก มันคาดว่า สัตว์บก 60 พันล้านตัว และสัตว์น้ำอีก หลายพันล้านตัวถูกฆ่า ทุกปี ส่วนมากเป็นสภาพ ฟาร์มโรงงาน ที่แออัดและทุกข์ทรมาน ไม่แข็งแรงด้วย สภาพไม่ถูกสุขอนามัย นี่คือสงครามที่แท้จริง สงครามต่อสัตว์ มันคล้ายกันมากกับสงครามของเรา ระหว่างมนุษย์ นอกจากว่ามนุษย์เรา สามารถปกป้อง ตัวเราเองได้ ในหลาย ๆ กรณี แต่สัตว์ พวกเขาช่วยตัวเองไม่ได้ พวกเขา สิ้นหวัง และนี่ เรา ก็ปฏิบัติต่อพวกเขาไม่ดีจริง ๆ นี่คือสงคราม กับการกักขังโดยสิ้นเชิง การทรมาน การสังหาร ด้วยมีดและปืน และระเบิดด้วย ค่าใช้จ่ายสูงมากด้านการเงิน และสุขภาพสำหรับผู้คนเช่นกัน และการทำลายสิ่งต่าง ๆ เช่นความเสียหายต่อจิตใจ และความหายนะทางสิ่งแวดล้อม และในไม่ช้า อาจจะเป็นการทำลายล้าง ของทั้งดาวเคราะห์ ถ้าเรายังสร้าง พลังงานที่ไม่สงบสุขต่อไป ไม่ว่าจะมาจากสงครามระหว่าง มนุษย์ หรือสงครามต่อสัตว์ เราจะไม่ได้รับสันติภาพ เพราะสิ่งเหมือนกันก่อสิ่งเหมือนกันถ้าเราไม่เดินไปถามหนาทาง แห่งความรักความเมตตา เราจะแพร่ขยายแวดวง ของความไม่สงบ ของความรุนแรง เราเห็นหลักฐานของสิ่งนี้ได้ จากฟาร์มสัตว์ และโรงฆ่าสัตว์ ที่มันไม่มีสักนิ้วของความสงบสุข สำหรับเพื่อนสัตว์ผู้ร่วมอยู่อาศัย ที่ไร้เดียงสาและรับรู้ได้ของเรา ไม่เพียงแต่มันไม่มีสันติภาพ ต่อสัตว์ป่านับไม่ถ้วน ที่เสียที่อยู่ของพวกเขา ไปเป็นที่ดินที่ถูกถาง เพื่อธุรกิจสัตว์ทุกวัน มากกว่า 80% ของพื้นที่สูญเสียป่า ที่เพิ่มขึ้นของแอมะซอน ได้กลายเป็นทุ่ง สำหรับปศุสัตว์ ด้วยที่เหลือถูกใช้ส่วนมาก สำหรับธัญพืชเป็นอาหารให้แก่ปศุสัตว์ มันไม่มีสันติภาพ แก่คนหลายล้านคน ที่เดือดร้อน ที่ทุกข์ จากความหิวโหยและกระหาย ที่มีแต่แย่ลง ด้วยทรัพยากรจำนวนมหาศาล ถูกบริโภคโดย ธุรกิจปศุสัตว์ มันไม่มีสันติภาพสำหรับ เพื่อนบ้านของโรงงานฟาร์ม ที่ไฮโดรเจนซัลไฟด์ แอมโมเนีย และฝุ่นที่เต็มไปด้วยแบคทีเรีย สามารถสร้าง กลิ่นเหม็นเกินทน และเป็นเหตุให้เกิดปัญหาสุขภาพ ที่ทั้งยึดติดคน ภายใน และผลักดันพวกเขา ให้ห่างจากบ้านของพวกเขา มันไม่มีสันติภาพแม้ว่า สำหรับผู้บริโภค ที่เป็นโรค ด้วยการเพิ่มของการเกิด โรคที่เกี่ยวข้องกับเนื้อสัตว์และในที่สุด มันก็ไม่มีสันติภาพแม้แต่สำหรับ คนไม่กี่คนที่ได้รับผลกำไรทางการเงิน จากธุรกิจเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์นม พวกเขาต้องทนรับผลลัพธ์ ที่น่ากลัวของการกระทำของพวกเขา ถ้าไม่ใช่ในชาตินี้ ก็หลังจากนี้ เพราะพระเจ้าได้เตือนคนเหล่านั้น ที่ทำร้ายหรือฆ่าสัตว์ ว่าพวกเขาควรหยุด ความโหดร้ายทั้งหมดนี้ มันพูดอยู่ในคัมภีร์ไบเบิ้ล “หยุดความโหดร้ายทั้งหมดนี้ หรือพระองค์จะหันหน้าหนี เมื่อพวกเขาสวดภาวนาถึงพระองค์ เพราะมือของพวกเขา เต็มไปด้วยเลือดของผู้บริสุทธิ์” ดังนั้น โลกอันสงบสุขอย่างสมบูรณ์แบบ ต้องเป็นโลกวีแกน ที่ทุกสรรพสัตว์ใช้ชีวิตในความสงบสุข และไม่กลัวกันและกันเราต่างต้องการมี โลกอันสงบสุข แล้วเราต่างพูดถึงว่าเราต้องการ สันติภาพและความรักอย่างไร ก็ ฉันคิดว่าเราควร เริ่มมันตอนนี้และ ให้สันติภาพเริ่มบนจานของเรา ให้ความรักเริ่มด้วยตัวเลือกของเรา เมื่อคนมีส่วนร่วม ในการฆ่าสิ่งมีชีวิตใด ๆ ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์ต่าง ๆ เขาหรือเธอเข้าสู่วงเวียน ของการแก้แค้นและความรุนแรง และมันจะเพียงจบลง เมื่อคนหยุดทำมันเราต่างหวังให้ลูก ๆ ของเรา โตขึ้นมาฉลาด ใจรักและเมตตา แต่เราทำอะไรที่สอนพวกเขา ตั้งแต่ตอนแรก ของชีวิตที่บอบบางมากของพวกเขา? เราสอนอะไรพวกเขา? เราผลักดันสัญลักษณ์ ของความรุนแรงใส่ปากของพวกเขา แม้ว่าพวกเขาจะพ่นมันออกมา เราบังคับพวกเขา จับมันใส่กลับไปอีกครั้ง จนกระทั่งพวกเขาคุ้นเคยกับมัน ความรุนแรงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา จนกระทั่งตอนนี้ ความรุนแรงคือสิ่ง ที่เราสอนลูก ๆ ของเรา แล้วเราคาดหวังว่าพวกเขา จะมีใจรักและเมตตา ไม่เพียงแต่ความรุนแรง เนื้อชิ้นนั้น หรือปลา หรือสัตว์ สิ่งที่เราพยายามยัด ลงไปในกระเพาะของเด็ก ๆ ที่ไม่รู้เรื่อง นั่นก็ยัง ลดความฉลาดของพวกเขาด้วย ลดคุณสมบัติใจรักของพวกเขา มนุษยชาติ ดังนั้น เราคาดหวังให้ลูก ๆ ของเรา เป็นคนดีที่สุด แล้วเราให้สิ่งที่เลวร้ายที่สุด เลวร้ายที่สุดของสิ่งที่เลวร้ายที่สุด คือการกินเนื้อสัตว์เราพูดว่าเราต้องการมีชีวิตยืนยาว เราต้องการสุขภาพเราต้องการสันติภาพ แต่มันไม่จริง เราไม่สามารถต้องการสุขภาพแข็งแรงได้ เมื่อเราสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า แล้วก็กินเนื้อสัตว์และ[เสพ]ยาเสพติด เราไม่สามารถพูดว่าเราต้องการสันติภาพ เมื่อเราใช้ชีวิต กับความรุนแรงทุกวัน แม้แต่โดยอ้อม ด้วยการกินเนื้อสัตว์ นั่นคือความรุนแรง และทุกอย่าง ที่เรากินทำให้ชีวิตเราสั้นลง แล้วเราพูดว่า เราต้องการมีชีวิตยืนยาว การกินเนื้อสัตว์และสูบบุหรี่ และดื่มเหล้า ทั้งหมดนั่น มันทำให้ชีวิตสั้น แล้วเราต้องการเป็นคนฉลาด แต่เราให้ยาพิษกับสมองของเรา ดังนั้น เราทำทุกอย่างจริง ๆ ที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่เราต้องการ นั่นคือเหตุผลที่เรามีปัญหา เราป่วย เรามีสงคราม ใช่ ผลลัพธ์ของสิ่งนั้นเราเป็นบุตรของสวรรค์ ถ้าเราต้องการอะไร เราต้องแสดงสัญญาณ ว่าเราต้องการสิ่งนั้น ตอนนี้ ถ้าเราต้องการสันติภาพ เราต้องการความเมตตา เราต้องการความรัก พระพร จากสวรรค์ เราต้อง เริ่มแสดงสิ่งนั้น ด้วยการกระทำ เราต้องแสดงความรัก แก่กันและกัน เราต้องมีความเมตตา ต่อกันและกัน เราต้องมีความเมตตากับทุกสิ่ง แล้วสวรรค์จะพูดว่า “อ้อ! ลูก ๆ ของฉันต้องการสิ่งนั้น!” แล้วมันจะมา แต่เราไม่สามารถแค่นั่ง แล้วสวดอธิษฐานขอสันติภาพ และความเมตตา เมื่อการกระทำของเรา เป็นไปในทิศทางตรงกันข้าม เราไม่สามารถไปทางใต้ แล้วอธิษฐานไปอยู่ทางเหนือ เข้าใจ? (นั่นเป็นความจริง) ความรุนแรงและการฆ่านี้ ของมนุษย์และสัตว์ เป็นสัญญาณที่แน่นอน ว่าเราไม่ต้องการความรัก ว่าเราไม่ต้องการความเมตตา ว่าเราไม่ต้องการสันติภาพสงครามไม่เคยถูกต้อง การฆ่าไม่เคยถูกต้อง ดังนั้น ถ้าเราต่างพิจารณา ถึงผู้อื่นอย่างที่เรา พิจารณาถึงตัวเอง เพียงเอาตัวเราไปอยู่ในที่ของพวกเขา แล้วเราจะรู้ว่าต้องทำอะไร อย่างสมบูรณ์แบบ มันไม่เคยมีข้ออ้าง ในการทำร้ายใคร ๆ ในการทำร้ายเพื่อนมนุษย์ หรือสัตว์ ผู้ร่วมอยู่อาศัยของคุณ ไม่เคยมีข้ออ้างที่ดีใด ๆ เลย แม้แต่เพื่อวิทยาศาสตร์ สุขภาพ ไม่เลย ไม่เลย! ถ้าเราไม่ฆ่าสัตว์ หรือเราไม่ฆ่ากันและกัน เราไม่ต้องไปถึงจุดจบ ที่เราไปถึงวันนี้ ด้วยความเดือดร้อนมากมาย ภัยพิบัติมากมาย ความทุกข์ทรมาน สงครามมากมาย ความเจ็บป่วยมากมาย ยิ่งเราฆ่าสัตว์มากเท่าไหร่ แม้แต่เพื่อการทดลอง ในห้องทดลอง เราก็ยิ่งมีความเจ็บป่วยมากขึ้น ดู! เราเพียงรักษาโรค ๆ หนึ่ง แล้วอีกโรคก็มา! เลวร้ายกว่าแต่ก่อน! กฎแห่งกรรม (กรรมสนอง) กฎอันยิ่งใหญ่ของจักรวาล ไม่เคยล้มเหลว