รายละเอียด
ดาวน์โหลด Docx
อ่านเพิ่มเติม
ชาวจีน 98% จะ เปลี่ยนเป็นวีแกน หลังจากเรียนรู้ประโยชน์ การสำรวจโดย โปรเวจ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็น องค์กรที่ทำงานเพื่อ เปลี่ยนแปลงระบบอาหารโลก ระบุว่าชาวจีนเกือบทุกคน ยินดีที่จะรับประทานอาหารวีแกน มากขึ้น หากพวกเขาได้ เรียนรู้ว่าการรับประทานอาหารวีแกน นั้นมีประโยชน์อย่างไร การสำรวจนี้จัดทำขึ้นในปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และกว่างโจว โดยมีผู้เข้าร่วม 1,000 คน ซึ่งเป็น ผู้ทั้งกินเนื้อสัตว์และพืชหรือผู้ที่กิน อาหารประเภทยืดหยุ่นเป็นหลัก นักสำรวจได้ให้คำชี้แจง เกี่ยวกับประโยชน์ของอาหารวีแกน 15 ประการ ดังนี้: 1. อาหารที่ดีต่อ สุขภาพและยั่งยืนที่สุด มักประกอบด้วย อาหารวีแกน (จากพืช) เป็นหลัก 2. อาหารวีแกนที่สมดุลมีแนวโน้ม ที่จะลดดัชนีมวลกาย (BMI) และลดอัตราโรคอ้วน จึงส่งผลให้ลดอัตราการเกิด โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง ความดันโลหิตสูง และระดับคอเลสเตอรอลสูงลดลง 3. อาหารวีแกนที่สมดุล สามารถช่วยป้องกันและจัดการ โรคเบาหวานประเภท 2 ได้ 4. อาหารวีแกนที่สมดุล สามารถช่วยลดความเสี่ยง ของมะเร็งเต้านมได้ 5. อาหารวีแกนช่วยลด ความเสี่ยงในการเกิดการดื้อ ยาปฏิชีวนะจากอาหารที่มาจากสัตว์ ในประเทศจีน ยาปฏิชีวนะ มากกว่าครึ่งหนึ่งถูก ใช้ในการเลี้ยงสัตว์ เมื่อแบคทีเรียพัฒนา ความต้านทานต่อยาปฏิชีวนะ การติดเชื้อที่เกิดจาก แบคทีเรียเหล่านี้จะรักษา ได้ยากขึ้น ส่งผลให้ ค่าใช้จ่ายทางการแพทย์และ อัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น การดื้อยาปฏิชีวนะเป็นหนึ่งใน ภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่อ สุขภาพ ความปลอดภัยทางอาหาร และการพัฒนาในระดับโลกปัจจุบัน 6. อาหารวีแกน โดยเฉพาะ ถั่ว พืชตระกูลถั่ว และถั่วเลนทิล ให้โปรตีนที่เพียงพอ ต่อมนุษย์ ปราศจากคอเลสเตอรอล และไขมันสัตว์อิ่มตัวที่ไม่ดี ต่อสุขภาพเมื่อเปรียบเทียบ กับอาหารที่มาจากสัตว์ 7. ผักใบเขียว เช่น คะน้า ผักกาดขาว ผักโขม กะหล่ำปลี อุดมไปด้วยแคลเซียม บางชนิดมีความสามารถใน การดูดซึมได้สูงกว่า ผลิตภัณฑ์จากนมด้วยซ้ำ 8. การรับประทานอาหารวีแกน ที่มีธาตุเหล็กสูง (เช่น เต้าหู้ ถั่วเลนทิล ควินัว และเมล็ดงา) ร่วมกับผลไม้ และผักที่มีวิตามินซีสูง จะสามารถหลีกเลี่ยง การขาดธาตุเหล็กได้ 9. อาหารวีแกน มีประสิทธิภาพในการให้ พลังงานและมีประสิทธิผล มากกว่าการเกษตรสัตว์ในแง่ ของการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ (เช่น พื้นที่เพาะปลูก น้ำจืด พลังงาน ฯลฯ) 10. เกษตรกรรมเลี้ยงสัตว์ เป็นสาเหตุของการปล่อยก๊าซ เรือนกระจกถึง 20 % เมื่อเปรียบเทียบกับอาหาร ประเภทเนื้อสัตว์ อาหารวีแกน สามารถลดการปล่อยก๊าซ เรือนกระจกได้มากกว่า 50% 11. เนื้อวัวและผลิตภัณฑ์นม ถือเป็นแหล่งปล่อยก๊าซมีเทน ที่มนุษย์ก่อให้เกิดมากที่สุด มีเทนมีอานุภาพมากกว่า คาร์บอนประมาณ 80 เท่า ในแง่ของผลกระทบที่ ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนใน ช่วง 20 ปีแรกหลังจาก ถูกปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศ การหันมาทานอาหารวีแกน สามารถลดการปล่อยก๊าซมีเทนที่ เกี่ยวข้องกับอาหารได้ถึง 90% 12.การทานอาหารวีแกนสามารถ ช่วยลดความหิวโหยของชาวโลกได้ มากกว่าร้อยละ 75 ของการเก็บเกี่ยว ถั่วเหลืองถูกใช้เป็นอาหารสัตว์ ทรัพยากรจำนวนเท่ากันจะจัดสรร เพื่อเพาะปลูกอาหารของมนุษย์ และสามารถเลี้ยงผู้คนได้มากขึ้น ซึ่งเป็นการมีส่วนสนับสนุน ความมั่นคงทางอาหารของชาติ 13. ทุกปี สัตว์บก จำนวน 80 พันล้านตัว และสัตว์ทะเลมากถึง 2.3 ล้านล้านตัวถูกฆ่า อาหารเน้นพืชเป็นหลัก สามารถลดการฆ่าสัตว์ โดยตั้งใจได้อย่างมาก และยังช่วยปกป้องสัตว์ป่า และระบบนิเวศอีกด้วย 14. การเลี้ยงสัตว์ใช้ พื้นที่เพาะปลูกถึง 80 % ส่งผลให้ป่าฝนถูก ทำลายถึง 70 % จึง เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ ความหลากหลายทางชีวภาพสูญหาย ปัจจุบันประมาณ 25% ของสายพันธุ์ ทั้งหมดกำลังเผชิญกับการสูญพันธุ์ และประมาณ 88% ของสายพันธุ์จะ สูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัยภายในปี 2050 การรับประทานอาหารแบบวีแกน จะช่วยเพิ่มทรัพยากรธรรมชาติ เช่น ดิน น้ำ และป่าฝน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และ ปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ 15. อาหารที่อุดมด้วยพืช มีรสชาติให้เลือกมากมายจาก ผลไม้ ผัก ธัญพืช ถั่ว และ ถั่วชนิดต่าง ๆ ซึ่งสามารถให้ รสชาติที่อร่อย และน่าพอใจได้ บทความต้นฉบับสมบูรณ์ มีอยู่ใน: ProVeg.org หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับการใช้ชีวิต อย่างมีสุขภาพดีและมีเมตตา กรุณาเยี่ยมชม: SupremeMasterTV.com/Be-Veg
